สำหรับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสิบเก้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้นับเวลารวมกันเกือบสามปี จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องและมีการแพร่ระบาดเป็นระยะอย่างไม่มีหยุด จึงทำให้สถานการณ์ในไทยปัจจุบันนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดอยู่อย่างจำนวนมาก แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบันมีความรุนแรงน้อยลงมากเพราะเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมคอน ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสเมอร์สโควิดที่มีความรุนแรงน้อยมากที่สุดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์อื่นที่ผ่านมา
ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในประเทศไทยมีจำนวนลดน้อยลง
จะเห็นได้จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดประเทศไทยนั้นสถิติมีจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังเห็นได้ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดแต่อัตราการเสียชีวิตของการติดเชื้อนั้นมีน้อยลงอย่างมาก โดยตอนนี้ผู้ติดเชื้อรวมสูงสุดของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณสี่ล้านห้าแสนสามหมื่นคนและมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่สามหมื่นเจ็ดพันสิบแปดคน จากการจัดสถิติของกรมควบคุมโรคในประเทศไทยและกรมสาธารณสุข โดยสาเหตุที่ทำให้มียอดการติดเชื้อและการเสียชีวิตที่ลดลงในประเทศไทยนั้น
เป็นเพราะการได้รับวัคซีนที่ครบไม่ว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อไหนก็ตามแต่คนไทยส่วนใหญ่ล้วนแต่ฉีดวัคซีนกันแล้ว จึงทำให้อัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตจากการติดเชื้อนั้นมีลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแล้วหากใครที่ยังไม่ได้รับวัคซีนกรมสาธารณสุขและกรมควบคุมโรคขอแนะนำให้คุณเข้าไประบบซีลได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือสถานพยาบาลที่รับฉีดวัคซีน
ซึ่งในปัจจุบันนี้การฉีดวัคซีนไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินฉีดอีกต่อไป เพราะรัฐบาลสนับสนุนด้านวัคซีนให้กับคนไทยฟรี จึงอยากแนะนำให้ทุกท่านไปฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสและผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ เพื่อจำนวนและสถิติของผู้ติดเชื้อที่น้อยลงในประเทศไทย
ราชกิจจานุเบกษาผ่อนปรนการสวมใส่หน้ากากอนามัย
จากข่าวล่าสุดที่ผ่านมาพบว่าราชกิจจานุเบกษาได้กำหนดการผ่อนปรนการสวมใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าอนามัยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ที่ต้องการสวมใส่เท่านั้น ซึ่งสามารถที่จะถอดหน้ากากอนามัยเพื่อไปยังสถานที่อื่นได้แล้ว แต่ทั้งนี้ผู้คนยังจำเป็นที่จะต้องรักษาความปลอดภัยโดยการเว้นระยะห่างให้เป็นอย่างดีและการล้างมืออยู่เป็นประจำหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดหรือถ้าต้องอยู่ในสถานที่แออัดก็ขอแนะนำให้คุณสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือใส่แมสไว้
เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ที่ต้องการจะสวมใส่อีกด้วย โดยมาตรการนี้ออกมาไม่นานแต่คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยปัจจุบันจะเห็นได้ว่ายังคุ้นชินกับการสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่จะป้องกันทั้งโรคไวรัสโควิดและการป้องกันฝุ่นละออง pm 3.5 ได้เป็นอย่างดี แต่จากการที่หน้ากากอนามัยมีการสวมใส่ที่ลดน้อยลง จึงทำให้ยอดขายของหน้ากากอนามัยนั้นก็มียอดขายที่ตกลงตามไปด้วย
ตรวจเชื้อไวรัสโควิด 19 เบื้องต้นด้วยชุดตรวจ ATK
ในปัจจุบันนี้การตรวจโรคเชื้อไวรัสโควิดไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปตรวจถึงโรงพยาบาลแล้ว หากคุณมีข้อสงสัยว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิดคุณสามารถที่จะตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วยชุดตรวจโควิดในรูปแบบของ ATK ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูกลงมากจากเดิม โดยถูกสุดที่เคยพบเจออยู่ที่ชุดละประมาณ 59 บาท ซึ่งเป็นการตรวจหาเชื้อไวรัสเบื้องต้นที่คุณสามารถตรวจหาได้ แต่หากยังไม่มั่นใจคุณสามารถที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสอย่างละเอียดด้วยวิธีการ RTPCR
ซึ่งในปัจจุบันนี้การตรวจวิธีนี้จะต้องตรวจแลปที่มีสารตรวจพันธุกรรมจำเพาะเจาะจงที่มีความแม่นยำสูง โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจตรวจหาเชื้อไวรัสประเภทนี้นั้นมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมากอยู่ที่ประมาณ 2500 – 5000 บาทตามแต่ละโรงพยาบาลเป็นตัวกำหนด โดยหากคุณไม่มั่นใจคุณสามารถที่จะตรวจหาด้วยวิธีนี้ได้ซึ่งเป็นวิธีที่บอกผลแม่นยำมากสูงสุดถึง 90 % เปอร์เซ็นต์