เหตุการณ์ที่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในประเทศไทยกับเหตุการณ์พบเครื่องบินรบเหนือน่านฟ้าไทยโดยพบว่าเป็นเครื่องบินรบจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ซึ่งบินเข้ามาในเขตน่านฟ้าไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยเครื่องบินลำนี้ได้ทำการทิ้งระเบิด ลงบนพื้นที่หมู่บ้านทิบาโบในจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่าและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนสามคนและมีผู้เสียชีวิตจำนวนสามคนเช่นกันและยังสร้างเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนตกใจอีกด้วยเมื่อหนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นมีบัตรประจำตัวประชาชนไทย
ขอผ่อนปรนข้ามพื้นที่ชายแดนไทยแม่น้ำเมย
ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่าหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ตำบลพบพระ จังหวัดตาก ที่มีชายแดนติดกับหมู่บ้านทิบาโบได้มีผู้บาดเจ็บเข้ามาขอความช่วยเหลือในการเข้ามารักษากับทางโรงพยาบาลทางฝั่งประเทศไทยโดยการขอผ่อนปรนมาตรการการข้ามพื้นที่ชายแดนด้วยเหตุฉุกเฉินมีผู้บาดเจ็บจากการถูกทิ้งระเบิดทั้งหมดหกคน โดยอาศัยเรือโดยสารข้ามแม่น้ำเมยเพื่อเข้าฝั่งแล้วทั้งหมดก็ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในจังหวัดตากโดยต่อมาพบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมดสามคนและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกำลังรักษาตัวอยู่อีกสามคนด้วยกัน
เหตุระเบิดเกิดจากเครื่องบินรบประจำประเทศเมียนมาร์ รุ่นมิก29 ที่บินเหนือฟ้าขณะที่คนในครอบครัวกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ในพื้นที่บ้าน โดยระเบิดได้ถูกทิ้งลงมากลางวงโดยเครื่องบินรบต้องการทิ้งระเบิดลงพื้นที่กลุ่มต่อต้านเป็นการปฏิบัติการทางอากาศโดยกองทัพจากทางเมียนมาร์เอง
ระบุตัวตนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
จากผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนพบว่ามีผู้ถือครองบัตรประชาชนไทย 1 คน พบบัตรพื้นที่สูง 1 คน และบัตร 10 ปีของประเทศไทย 1 คน โดยคาดว่าผู้ถือบัตรประชาชนไทยเป็นคนในพื้นที่ที่ได้ไปแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ และพบว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน เป็นผู้มีบัตรพื้นที่ 1 คน และบัตรประจำตัวประชาชนไทยอีก 1 คน และพื้นหนึ่งคนไม่มีบัตรประจำตัว สำหรับผู้เสียชีวิตได้นำศพไว้ที่ฝั่งเมียนมาร์และดำเนินการทำพิธีตามศาสนาประเพณีต่อไป
คำให้การด้านเจ้าหน้าที่
ด้านผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พลตรีประสาน แสงศิริรักษ์ได้มีการเดินทางไปเยี่ยมทหารและเพื่อตรวจการณ์สถานการณ์ชายแดนตากที่มีเหตุการณ์สู้รบกันอย่างต่อเนื่องระหว่างฝ่ายต่อต้านทหารประเทศเมียนมาร์กับทางการทหารเมียนมาร์ พบว่ามีผู้ลี้ภัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยในตำบลพบพระ จังหวัดตาก ทั้ง 2 จุดรวมกันประมาณ 470 คน โดยอยู่ในหมู่บ้านวาเล่ย์ใหม่ อีกจุดตั้งอยู่ที่บ้านมอเกอร์ไทยรวมถึงพลตรีประสานยังได้ไปเยี่ยมกองร้อยทหารราบ 1413 ยังบ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเลย์เพื่อตรวจสอบความพร้อมและการป้องกันภัยสำหรับคนในหมู่บ้านชายแดนอีกด้วย โดยได้มีการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั้งหมด ด้วยการมอบข้าวสารและอาหารแห้งให้กับเหล่าผู้ลี้ภัยเป็นการให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอด
ต่อพลตรีประสานได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าตอนนี้ไม่มีการใช้เครื่องบินรบบินผ่านพื้นที่ทางอากาศของประเทศไทยแล้ว รวมถึงได้ประสานงานไปถึงเจ้าหน้าที่ในระดับสูง และระดับท้องถิ่นให้แจ้งให้ทราบถึงมาตรฐานการรุกล้ำพื้นที่ทางอากาศของประเทศไทย และยังได้กำชับกับทางทหารที่ทำหน้าที่ประจำพื้นที่ปลอดภัยและดูแลพื้นที่ชายแดนระหว่างไทย เมียนมาร์ประจำจังหวัดตากให้ดูแลเหล่าผู้ลี้ภัยและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี สำหรับผู้ลี้ภัยบางส่วนก็ได้มีการขอกลับประเทศเมียนมาร์ไปแล้วเนื่องจากเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินของตัวเองในอีกฝั่ง
ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ หลังทราบเหตุการณ์กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ระบุว่าทางการทูตทหารก็ได้มีการพูดคุยและขอโทษมาแล้วผ่านสถานทูตไทยในย่างกุ้ง โดยทางนั้นกล่าวว่าจำเป็นต้องตีวงเข้ามาเหนือน่านฟ้าไทยเพื่อเป็นการประคองเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไม่อยากให้กระทบกับสัมพันธไมตรีอันดีที่มีต่อกันมาอย่างยาวนานให้มีอะไรก็พูดคุยหารือกันด้วยดี จะดีกว่าเพราะทางประเทศไทยก็มีกำลังเพียงพอที่จะป้องกันอธิปไตยเราไว้ได้และยังย้ำอีกว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่าทหารไทยได้แต่ยืนมองเครื่องบินรบที่ล้ำเข้ามาในเขตกว่า 15 นาทีโดยไม่สามารถทำอะไรได้ และแน่นอนว่าไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยกับสถานการณ์และคำให้การของนายกนี้